การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน สำหรับเสริมการเรียนวิชาชีวกลศาสตร์ 1 เรื่อง “การทดสอบกำลังกล้ามเนื้อและการวัดช่วงการเคลื่อนไหว” สำหรับนักศึกษากายภาพบำบัด ชั้นปีที่ 1
The Development of Computer Assisted Instruction to Support Studying Biomechanics 1 in Manual Muscle Testing and Range of Motion for the First Year Physical Therapy Students in 2004
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) วิชาชีวกลศาสตร์ 1 เรื่อง การทดสอบกำลังกล้ามเนื้อและการวัดช่วงการเคลื่อนไหว 2) เปรียบ เทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนระหว่างการเรียนด้วย CAI และการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน และ 3) เพื่อศึกษาเจตคติและความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อ CAI เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย 1) บทเรียน CAI และเอกสารประกอบการเรียนเรื่อง "การตรวจกำลังกล้ามเนื้อและการวัดช่วงการเคลื่อนไหว" 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ และ 3) แบบวัดเจตคติและความพึงพอใจที่มีต่อ CAI การดำเนินการวิจัยประกอบไปด้วย 1) การหาประสิทธิภาพของ CAI แบ่งเป็นการทดลองแบบหนึ่งต่อหนึ่ง การทดลองแบบกลุ่มเล็ก และการทดลองแบบกลุ่มใหญ่ โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษากายภาพบำบัด ชั้นปีที่ 1 จำนวน 19 คน 2) การหาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษากายภาพบำบัด ชั้นปีที่ 1 จำนวน 30 คนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มโดยการสุ่ม คือ กลุ่มทดลองศึกษาจากบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน และกลุ่มควบคุม ศึกษาจากเอกสารประกอบการเรียน และ 3) ศึกษาเจตคติและความพึงพอใจต่อ CAI จากนักศึกษากายภาพบำบัด ชั้นปีที่ 2 จำนวน 30 คน จากการวิจัยพบว่า 1) CAI มีประสิทธิภาพที่สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ 85.33/87.67 2) ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนโดยใช้ CAI สูงกว่าการเรียนด้วยเอกสารประกอบการเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) 3) เจตคติและความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อ CAI ส่วนใหญ่อยู่ในระดับดี
Abstract
The purposes of this study were 1) to evaluate the efficiency of Computer Assisted Instruction (CAI) in order to support studying Biomechanics 1, Manual Muscle Testing and Range of Motion (MMT and ROM) 2) to compare the learning achievement between Physical Therapy students who studied with CAI and Physical Therapy students who studyied with document and 3) to survey the students’ attitude toward the CAI. The instruments used for gathering data were 1) CAI and document on "MMT and ROM" developed by researcher 2) an achievement test was focused on Biomechanics MMT and ROM by using pretest and posttest and 3) a questionnaire was used for surveying the subjects' attitude on the effectiveness of CAI. A three-step experimentation process of trying out with was composed of 1) A one by one try out 2) A small group try out 3) A large group try out, was conducted to evaluate the efficiency of CAI. The analysis of the t-test was used to analyze the data in order to measure the subjects' learning achievement scores with 30 first-year Physical Therapy students of Rangsit University. By using sample random sampling, the subjects were divided into two groups. For the experimental group, students learned by using CAI. The other group was the controlled group, students learned by using document. The students' attitude toward the CAI was surveyed by thirty second-year physical Therapy students. The results revealed that 1) the efficiency of the CAI was at 85.33/87.67 which was higher than the 80/80 standard level. 2) the achievement scores of the Physical Therapy students by using CAI were significantly higher (p<0.05) and 3) The attitude toward the CAI of most of the students surveyed was found to be at a good level.
How to cite!
อาภาลักษณ์ พรรคสายชล (2550). การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน สำหรับเสริมการเรียนวิชาชีวกลศาสตร์ 1 เรื่อง “การทดสอบกำลังกล้ามเนื้อและการวัดช่วงการเคลื่อนไหว” สำหรับนักศึกษากายภาพบำบัด ชั้นปีที่ 1. วารสารพัฒนาการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยรังสิต, 1(2), 24-35
Indexed in