นักศึกษาไทยในระดับอุดมศึกษาจำเป็นต้องเรียนและสื่อสารภาษาอังกฤษให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้สามารถ
เข้าถึงแหล่งความรู้และเพื่อที่จะได้ตอบสนองต่อศาสตร์วิชาต่างๆ ที่มีมาตรฐานระดับโลกที่สูงขึ้น ในประเทศไทยมีการใช้และ
การสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศและผู้เรียนจำเป็นที่จะต้องพัฒนาทักษะในทุกด้าน โดยเฉพาะทักษะด้านการอ่านเพื่อ
ให้สามารถเข้าใจสื่อการสอนที่หลากหลายและรวบรวมข้อมูลต่างๆ สำหรับการศึกษาและวิชาชีพ แรงจูงใจเป็นปัจจัยที่สำคัญใน
การเรียนภาษาต่างประเทศ และแรงจูงใจของนักอ่านนับเป็นปัจจัยที่สำคัญในการกำหนดคุณภาพและความสำเร็จในการอ่าน
งานวิจัยเล่มนี้รายงานการนำทฤษฎีแนวคิดแรงจูงใจแบบบูรณาการของ Robert Gardner มาใช้ในการสอนหลักการอ่านสำหรับ
นักศึกษาไทย 40 คนในระดับอุดมศึกษาของมหาวิทยาลัยเอกชน ผู้วิจัยสร้างหลักการอ่านที่นำเสนอในงานวิจัยนี้ โดยการนำ
ตัวแปรนามธรรมของแรงจูงใจแบบเชิงบูรณาการซึ่งมีองค์ประกอบสามประการ (ความสนใจ ความพยายาม และ ทัศนคติ) มาใช้
ในแผนการสอนทั้งเก้าแผนสำหรับวิชาการอ่านและการเขียนในระดับกลาง โดยในแต่ละแผนการสอนประกอบด้วยกิจกรรมการ
เรียนรู้ด้านการใช้ภาษาหกกิจกรรม มีการใช้บทความเป็นฐานเพื่อนำไปสู่ทักษะการแสดงออกทางภาษาของผู้เรียนนั่นคือการ
พูดและการเขียน วิธีและขั้นตอนในการสอนเน้นการมีส่วนร่วมและปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนและระหว่างครูผู้สอนและผู้เรียน
การมีส่วนร่วมและปฏิสัมพันธ์ของผู้เรียนเป็นส่วนสำคัญในกิจกรรมการเรียนรู้ซึ่งมีข้อกำหนดและเกณฑ์การวัดที่ชัดเจนในแต่ละ
แผนการสอน ผลการทดลองทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพซึ่งได้จากแบบทดสอบก่อนและหลังเรียน ผลสะท้อนของอาจารย์
ผู้สอนและการสัมภาษณ์แบบโครงสร้างโดยครูผู้สอน รวมทั้งผลคะแนนปฏิบัติของผู้เรียนซึ่งได้จากการทำกิจกรรมการเรียนรู้
พบว่าวิธีการสอนแบบใหม่นี้สามารถทำให้แรงจูงใจเพื่อการอ่านของผู้เรียนดีขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งยังช่วยพัฒนาความสามารถใน
การอ่านได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ด้วยเหตุนี้แนวทางการศึกษาของงานวิจัยชิ้นนี้จึงควรได้รับการนำไปประยุกต์เพื่อใช้ในการ
พัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

At the university or tertiary level, Thai students are required to study and communicate effectively in
English to access resources to meet increasingly strict world standards in all disciplines. In Thailand, where
English is used and taught as a foreign language, EFL learners need to develop English proficiency in every
skill, especially in reading to fully comprehend a wide range of materials and gather written information
for their academic studies and careers. Motivation is a crucial factor in learning a foreign language and
reader motivation is a significant factor in determining the quality and success of the reading experience. This
study reported on applying Robert Gardner’s theory of integrative motivation to teaching reading for forty
tertiary-level EFL Thai students at a private Thai university. A teaching method for reading was created by
applying integrative-motivation construct consisting of three elements (Interest, Effort, and Attitude) into nine
lesson plan modules for an intermediate English reading and writing course. Each module consisted of six
language-learning activities. A reading text for each module was used as a platform for students’ productive
skills – speaking and writing. The teaching method and procedure emphasized participation: student-student
and teacher-student interaction. Student participation and interaction were an integral part of the learning
tasks and activities using clear-cut lesson module guidelines. The results from quantitative and qualitative data
of the research tools including the pretests; post-tests; researcher-teacher feedback; and structured interview as
well as student classroom activity performance scores showed that implementing this novel teaching method
markedly enhanced reading motivation and improved students’ reading proficiency even over a short period.
Such an approach should then be introduced elsewhere for effective, successful EFL teaching and learning
outcomes.