การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาบทเรียนสำเร็จรูปวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1  ที่มีประสิทธิภาพ 80/80 2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูปวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูปวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กับการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 4) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูปวิชาวิทยาศาสตร์เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กับการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ และ 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 จำนวน 31 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 จำนวน 29 คน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนจารย์วิทยาคาร จังหวัดสุรินทร์โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multistage Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย บทเรียนสำเร็จรูปวิชาวิทยาศาสตร์  เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป

ผลการศึกษาพบว่า ประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูปวิชาวิทยาศาสตร์  เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 82.26/81.39 สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80 ดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนสำเร็จรูปมีค่าเท่ากับ 0.63 แสดงว่านักเรียนมีความรู้และความก้าวหน้าทางการเรียนสูงขึ้นคิดเป็น ร้อยละ 63 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูปและแบบสืบเสาะหาความรู้วิชาวิทยาศาสตร์  เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า นักเรียนมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ทั้ง 2 รูปแบบการสอน  ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูปสูงกว่าที่เรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูปอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.00

โดยสรุป บทเรียนสำเร็จรูป เรื่อง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่เหมาะสม ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ครูผู้สอนในรายวิชาวิทยาศาสตร์สามารถนำบทเรียนสำเร็จรูปดังกล่าวมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ต่อไปได้

The objectives of this study were to 1) develop a programmed instruction for Mathayomsuksa 1 students on photosynthesis which reach effectiveness criteria 80/80, 2) determine an index of effectiveness of the programmed instruction, 3) compare the student learning achievement before and after studying using the programmed instruction and Inquiry Method, 4) compare the student learning achievement between using the programmed instruction and the inquiry method, and 5) survey on student satisfaction with the programmed instruction. The sample in this study was Mathayomsuksa 1/1 and 1/2 students in the second semester, in the year 2013 at Jarnwitthayakarnschool, Surin province. Tools of data collection were the programmed instruction of science for Mathayomsuksa 1 students on photosynthesis, study management plans using programmed instruction and Inquiry Method, achievement tests and a student satisfaction questionnaire.

The results of the study showed that; 1) the efficiency of the programmed instruction was 82.26/81.39 which was higher than the criteria; 2) the effectiveness index of the programmed instruction was 0.63; which showed that the student knowledge and their learning progress were increased; 3) learning achievement scores of the students after using the programmed instruction and the Inquiry Method were higher than before the treatment (significantly at the level of .01). 4) learning achievement scores of the students using the programmed instruction was significantly at the level of .01 higher than those using Inquiry Method, and 5) the students were satisfied with the programmed instruction at a high level with a mean of 4.01.

In conclusion, the programed instruction for Mathayomsuksa 1 on photosynthesis was the efficient and effective, and as a result, the student learning achievement was increased. Therefore, the programmed instruction could be used by science teachers for the further learning management.