วารสารพัฒนาการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยรังสิต

Journal of Rangsit University: Teaching & Learning

ISSN 2822-1400 (Print)

ISSN 2822-146X (Online)

การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษาที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ของนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง

INQUIRY-BASED STEM LEARNING TO ENHANCE CREATIVE THINKING IN 9th GRADE FEMALE STUDENTS AT A SCHOOL


วันที่ส่งบทความ: 29 มี.ค. 2567

วันที่ตอบรับ: 23 เม.ย. 2567

วันที่เผยแพร่: 1 ก.ค. 2568


บทคัดย่อ


งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษากระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษาที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ เรื่อง ปฏิกิริยาเคมี ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 2) ศึกษาผลการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา เรื่อง ปฏิกิริยาเคมี ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ผู้เข้าร่วมวิจัย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จานวน 44 คน ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษแห่งหนึ่งในจังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ แบบสะท้อนผลการจัดการเรียนรู้ และแบบทดสอบความคิดสร้างสรรค์ การวิจัย ครั้งนี้ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงปฏิบัติการในชั้นเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีวิเคราะห์เนื้อหา และตรวจสอบความน่าเชื่อถือของข้อมูลด้วยการตรวจสอบแบบสามเส้าด้านแหล่งข้อมูลและด้านวิธีเก็บรวบรวมข้อมูล ผลการวิจัย พบว่า 1) แนวทางการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ตามแนวทางสะเต็มควรมีลักษณะดังนี้ 1. การใช้สถานการณ์ปัญหา ที่ท้าทายในกิจกรรมสะเต็มและใช้คาถามในการกระตุ้นช่วยให้นักเรียนนาความรู้มาบูรณาการในการวางแผนออกแบบ เพื่อสร้างแนวคิดที่หลากหลายและสร้างแนวคิดอย่างสร้างสรรค์ 2. นักเรียนสืบค้นข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ อธิบายและลงข้อสรุปที่ได้จากการทากิจกรรมการทดลองอย่างถูกต้อง นาไปสู่แนวคิดในการสร้างชิ้นงานอย่างสร้างสรรค์ 3. นักเรียนนาเสนอผลงานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับคนอื่น วิเคราะห์ข้อดี ข้อบกพร่องของผลงานนาไปสู่การปรับปรุงแนวคิดเดิมจนเกิดเป็นแนวคิดใหม่เพิ่มเติม และ 2) ผลการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ พบว่า นักเรียนสามารถพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ได้มากขึ้นในทุกองค์ประกอบ คะแนนเฉลี่ยระหว่างการจัดการเรียนรู้และหลังการจัดการเรียนรู้ คิดเป็นร้อยละ 71.71 และ 85.92 ตามลาดับ ซึ่งคะแนนเฉลี่ยหลังการจัดการเรียนรู้มากกว่าระหว่างการจัดการเรียนรู้ ในทุกองค์ประกอบ
คำสำคัญ: การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา ความคิดสร้างสรรค์ ปฏิกิริยาเคมี นักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

Abstract

This research aims to 1) study the learning management process of Inquiry-based STEM learning that enhances creative thinking on chemical reactions for 9th grade students and 2) study the development of creative thinking through Inquiry-based STEM learning management on chemical reactions for 9th grade students. The research participants were 44 9th grade students of the academic year 2023 from an extra-large high school in Uttaradit province. They were selected by purposive sampling. The research instruments consisted of lesson plans, teacher reflection forms, and a creative thinking test. This research used a classroom action research model. Content analysis was used to analyze data and verify the data credibility by using resource and method triangulation. The results showed that 1) the inquiry-based STEM learning management approach should have the following characteristics: 1. The teacher will assign students with challenging problem situations and use questions for encouraging students to integrate knowledge into design planning to create diverse and creative ideas. 2. Students search for information from reliable sources, explain and conclude data obtained from the experimental activities correctly leading to ideas for creating creative artifacts. 3. Students present their work and exchange knowledge with others, analyze advantages and defects to improve original ideas and generate additional new ideas. 2) The development of creative thinking found that students could develop creative thinking more in every domain. The average scores during learning management and after learning management were 71.71% and 85.92%, respectively. The average score after learning management is greater than during learning management in every domain.

Download in PDF (506.64 KB)

How to cite!

ชัชวรัชย์ ใบยา, & ธิติยา บงกชเพชร. (2568). การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษาที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ของนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง. วารสารพัฒนาการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยรังสิต, 19(2), 1-15

References

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

ชฏารัตน์ เฮงษฎีกุล. (2566). ความคิดสร้างสรรค์: เกิดขึ้นเองหรือพัฒนาได้. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี,13(2), 122-130.

ชยพัทธ์ นาคกุลบุตร. (2564). การพัฒนาความสามารถในการคิดวิเคราะห์และความคิดสร้างสรรค์โดยการจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบสะเต็มศึกษา (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยบูรพา). ThaiLis. https://tdc.thailis.or.th/tdc/browse.php?option=show&browse_type=title&titleid=601405

บุญชม ศรีสะอาด. (2553). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 5). สำนักพิมพ์สุวีริยาสาส์น.

ปวันรัตน์ ทองหลวง. (2566). การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ตามแนวทางสะเต็มศึกษา ที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ เรื่องรูปเรขาคณิตสามมิติ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วารสารชุมชนวิจัย    มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา, 17(1), 142-153.

ปัญจนาฏ วรวัฒนชัย. (2565). ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์. ครุศาสตร์สาร, 16(1), 14-31.

พิชิต ฤทธิ์จรูญ. (2556). หลักการวัดและประเมินผลการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 8). บริษัท เฮ้าส์ ออฟ เคอร์มิสท์ จำกัด.

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (1 กรกฎาคม 2565). การประเมินความคิดสร้างสรรค์ใน PISA 2022. https://pisathailand.ipst.ac.th/infographics-pisa2022-creative-thinking-part1-2/

สถาพร พฤฑฒิกุล. (3 ธันวาคม 2558). การจัดการเรียนการสอนแบบ ActiveLearning.คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตสระแก้ว.https://km.buu.ac.th/article/frontend/article_detail/141

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.(2562).แนวทางการนิเทศเพื่อพัฒนาและส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก(Active Learning).http://academic.obec.go.th/images/document/1603180137_d_1.pdf

สิรินภา กิจเกื้อกูล. (2557). การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์: ทิศทางสำหรับครูศตวรรษที่ 21. จุลดิสการพิมพ์.

สุวิมล ติรกานันท์. (2551). การสร้างเครื่องมือวัดตัวแปรในการวิจัยทางสังคมศาสตร์: แนวทางสู่การปฏิบัติ (พิมพ์ครั้งที่ 2).โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

อาภรณ์ ใจเที่ยง. (2553). หลักการสอน (ฉบับปรับปรุง). สำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์.

Bart, W. M., Hokanson, B., Sahin, I., & Abdelsamea, M. A. (2015). An investigation of the gender differences in creative thinking abilities among 8th and 11th grade students. Thinking Skills             and Creativity, 17(2), 17-24. http://dx.doi.org/10.1016/j.tsc.2015.03.003

Gangadharrao, K.M. (2012). Scientific Creativity of Secondary Level Students: A Study. Research Expo International Multidisciplinary Research Journal, 2(2), 70-75. https://www.researchgate.net/publication/320868616_Scientific_Creativity_of_Secondary_Level_Students_A_Study

Greenstein, L. (2012). Assessing 21st Century Skills: A Guide to Evaluating Mastery and Authentic Learning. Corwin Press.

Kırıcı, M. G., & Bakırcı, H. (2021). The Effect of STEM Supported Research-Inquiry-Based Learning Approach on the Scientific Creativity of 7th Grade Students. Journal of Pedagogical Research, 5(2), 19-35. https://doi.org/10.33902/JPR.2021067921

Mayasari, T., Kadarohman, A., Rusdiana, D., & Kaniawati, I. (2016). Exploration of Student’s Creativity by Integrating STEM Knowledge into Creative Products. In AIP Conference Proceedings.
Proceedings of International Seminar on Mathematics, Science, and Computer Science Education (Msceis 2015). https://doi.org/10.1063/1.4941191

OECD. (2019). PISA 2021 Creative Thinking Framework (Third Draft). https://www.oecd.org/pisa/publications/PISA-2021-creative-thinking-framework.pdf

OECD. (n.d.). PISA 2022 Creative Thinking. https://www.oecd.org/pisa/innovation/creative-thinking

Ong, E. T., Luo, X., Yuan, J., & Yingprayoon, J. (2020). The Effectiveness of a Professional Development Program on the use of STEM-based 5E Inquiry Learning Model for Science Teachers in China.       In Science Education International, 31(2), 179-184. https://doi.org/10.33828/sei.v31.i2.7

                        Approved By TCI (2025 - 2029)

Indexed in